26 มีนาคม 2551

วิทีการทำบุญ....ให้ได้บุญ

"บุญ" แปลว่า ความสุข ความดี ความสะอาด ความผ่องแผ้วแห่งจิต "บุญกิริยาวัตถุ ๓ อย่าง" คือ
๑. ทานมัย วิธีการทำบุญด้วยการบริจาคทาน เป็นเรื่องของจิตเกี่ยวเนื่องกับสิ่งของที่จะทำทาน มีหน้าที่กำจัดกิเลสอย่างหยาบคือความโลภได้
๒. สีลมัย วิธีการทำบุญด้วยการรักษาศีล เป็นเรื่องของจิตเกี่ยวเนื่องกับกายวาจา สีลมัยมีหน้าที่ กำจัดกิเลสอย่างกลาง คือความโกรธได้
๓. ภาวนามัย วีธีการทำบุญด้วยการภาวนา เป็นเรื่องของจิตอย่างเดียว ผู้ที่ได้บุญจากการ ภาวนามัย ย่อมเป็นคนหนักแน่นมั่นคง แม้กระทบกระทั่งอารมณ์ใดๆ ย่อมจะไม่หวั่นไหวไปตาม อารมณ์นั้นๆ การภาวนา เป็นการอบรมจิตใจให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีและให้ฉลาด ซึ่งบุคคลที่ประพฤติให้ปรากฏออกภายนอกด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ต้องมีภาวนา เป็นสารอยู่ภายใน ย่อมเป็นไปดังสุคนธชาติ เป็นต้นว่า เนื้อไม้ที่อบไว้เป็นอันดี เพราะเหตุนั้น กุศลราศีที่บุคคลทำให้มีขึ้นโดยสนิทใจ ได้ชื่อว่าภาวนาเพราะใจความว่าเป็นเครื่องอบรมกุศล ให้มีขึ้นในสันดารhttp://www.dhammathai.org

บูชาคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า

ในการตั้งโต๊ะหมู่บูชานิยมประดิษฐานพระพุทธรูปไว้สูงสุดกว่าสิ่งอื่น ๆ ในโต๊ะ เพื่อเป็นประธานแทนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยเครื่องบูชาตามคตินิยมของชาวพุทธ ซึ่งเป็นประเพณีสืบต่อมาจากสมัยพุทธกาล เมื่อจะบำเพ็ญกุศลก็จะนิยมนิมนต์พระพุทธเจ้าเป็นประมุขในงานนั้น ๆ เพื่อให้พร้อมด้วยพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
เครื่องบูชาที่นิยมตั้งบนโต๊ะหมู่บูชาโดยทั่วไปนั้นอย่างน้อยต้องประกอบด้วย ธูป ๓ ดอก เทียน ๒ เล่ม และดอกไม้
ธูป ๓ ดอก เป็นการบูชาพระคุณของพระพุทธเจ้า ๓ ประการคือ ๑. บูชาพระปัญญาคุณ ๒. บูชาพระวิสุทธิคุณ ๓. บูชาพระมหากรุณาธิคุณ เทียน ๒ เล่ม นั้น มีความหมายต่างกัน คือ เล่มที่อยู่ด้านขวาของพระพุทธรูป หรือ ด้านซ้ายของผู้จุดเทียน หมายถึง พระธรรม ส่วนเล่มที่อยู่ด้านซ้ายของพระพุทธรูป หรือ ด้านขวาของผู้จุดเทียน หมายถึง พระวินัย
พานดอกไม้ แจกันดอกไม้ บูชาพระสงฆ์ไม่ว่าจะมาจากวรรณะใดเมื่อเข้ามาอยู่ในศาสนาของพระศาสดาแล้วมีความเรียบร้อยเสมอกัน

15 มีนาคม 2551

บทเรียนดี ๆ ของกบ...

นิทานอีสปเคยกล่าวเอาไว้ว่า...จงพอใจในวาสนาของท่าน เรามิอาจเป็นเลิศในทุกสิ่งได้ คนไม่พอใจในตัวเองจะเป็นทุกข์ตลอดไป........
นานมาแล้วมีกบตัวหนึ่งอาศัยใกล้กุฎิพระตอนเช้าเห็นพระบิณฑบาตได้อาหารมาอย่างสบายทุกวัน เจ้ากบก็ปรารถนาอยากเป็นพระกับเขาบ้าง คงจะดีนะ ต่อมาเมื่อพระฉันเสร็จก็เอาข้าวสุกโปรยให้ไก่กิน เจ้ากบก็คิด เป็นไก่ดีกว่าไม่ต้องออกแรงเลย ไม่อยากเป็นพระอีกแล้ว ขณะนั้นเอง หมาตัวหนึ่งแย่งไก่กินอาหาร ไก่กลัวหมามากจึงหนีเอาตัวรอดอย่างน่าอนาถ เจ้ากบก็คิด เป็นหมาดีกว่าดูเป็นวีรบุรุษดี ไม่อยากเป็นไก่แล้ว มีชายคนหนึ่งเห็นเข้าจึงเอาไม้ไล่ตีหมา จนหมาวิ่งหนีร้องลั่นไป เจ้ากบจึงคิดว่าทำไมเราไม่เกิดเป็นคนหนอ สามารถขับไล่หมาไปได้ จากนั้นเอง ชายผู้นี้ ก็มานั่งริมสระน้ำ แล้วเจ้าแมลงวันก็บินมาตอมจนชายผู้นั้นรำคาญ และลุกหนี พร้อมบ่นว่า "รำคาญแมลงวันจริงโว้ย" เจ้ากบได้ยินเสียงดังนั้น ก็นึกคิดว่าเกิดเป็นแมลงวันดีกว่านะ เพราะเก่งมากจนทำให้คนรำคาญได้ บังเอิญแมลงวันบินมาเกาะที่จมูก มันจึงแลบลิ้นแผลบกินแมลงวัน เจ้ากบจึงค้นพบสัจธรรมอันยิ่งใหญ่ ว่า เป็นอะไรก็ไม่ดีเท่าตัวเราเอง ความทุกข์จึงเกิดจากความไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ "เราแทบไม่คิดว่า เรามีอะไรบ้าง แต่เราคิดเพียงว่า เราขาดอะไรบ้างเท่านั้น"

ฉันเป็นกบ อบ...อบ ในกะลา ภูมิใจว่าตัวเองช่างยิ่งใหญ่
มาวันหนึ่งแล้วกะลาก็พลิกไป ความภูมิใจสลายลงในพลิบตา
จากที่เคยคิดว่าตัวช่างยิ่งใหญ่ หลงภูมิใจอย่างโง่เขลาเบาปัญญา
แท้ที่จริงโลกนี้กว้างยิ่งกว่า ทั่วโลกาหาใครใหญ่จริงไม่

14 มีนาคม 2551

สงกรานต์ปีนี้.....ที่วัดเชิงคีรี

๑. เป็นการแสดงความเคารพบูชาต่อสิ่งที่ตนเคารพ ต่อบิดามารดา และผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ
๒. เป็นการชำระจิตใจ และร่างกายให้สะอาด
๓. เป็นการรักษาประเพณีมาแต่เดิม
๔. เป็นการสนุกสนานรื่นเริงในรอบปี และพักจากงานประจำชั่วคราว เพื่อจะไปพักผ่อนหย่อนใจ
๕. เป็นการเตือนสติว่ามนุษย์นั้นผ่านไป ๑ ปีแล้วและในรอบปีที่ผ่านมา เราได้ทำอะไรบ้างและควรจะทำอะไรต่อไปในปีที่กำลังจะมาถึงู
๖. เป็นการเตรียมตัวบวช ถ้าเป็นผู้ชายโดยเอาระยะเวลานี้บวชกัน เพราะหลังสงกรานต์ต้องเตรียมตัวทำนาแล้ว
๗. เป็นการทำความสะอาดพระ โต๊ะบูชา บ้านเรือน ทั้งในและนอกบ้านhttp://www.banfun.com/

12 มีนาคม 2551

สามเณรรูปแรกเป็นใครกันนะ.....

ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ธรรมแล้ว พระองค์เสด็จไปสู่กรุงกบิลพัสดุ์ตามที่พระเจ้าสุทโธทนะพุทธบิดา ให้อำมาตย์มากราบบังคมทูลนิมนต์ ในครั้งนั้นพระนางพิมพาผู้มารดาของพระราหุลกุมาร ได้ให้พระราหุลกุมารมาเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อทูลขอราชสมบัติ พระพุทธองค์ทรงเห็นว่า "อันทรัพย์ภายนอกนั้น มิใช่หนทางอันจะนำไปสู่ความหลุดพ้น หรือ นิพพาน มีแต่จะทำให้เวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์" จึงได้ประทานทรัพย์ภายในคือ อริยทรัพย์ให้แก่พระราหุล ด้วยการให้บรรพชาเป็นสามเณร พระราหุลกุมาร จึงเป็นสามเณรรูปแรกในพระพุทธศาสนา เมื่อบวชแล้วท่านเป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษาพระธรรมวินัยเป็นอย่างมาก ทุกเช้าเมื่อตื่นขึ้นมา ท่านจะกอบทรายจนเต็มมือ แล้วอธิษฐานว่า "วันนี้ ขอให้เราได้รับโอวาทคำสั่งสอน มากเท่ากับจำนวนเม็ดทรายในกำมือนี้..." นอกจากเป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษาพระธรรมวินัยแล้ว สามเณรราหุลยังได้รับยกย่องว่าเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย และมีความกตัญญูเป็นเลิศ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยมีพระสารีบุตรเป็นพระอุปัชฌาย์ พระราหุลบวชได้ไม่นานก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ และได้รับการยกย่องจากพระศาสดา ให้เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งปวง (เอตทัคคะ) ในด้านเป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษา

รับสมัคร...เยาวชนบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ณ.วัดเชิงคีรี อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย วันที่ 1 เมษายนของทุกปี

มา...เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า...กันเถอะนะ

การสวดมนต์มีอานิสงส์และคุณประโยชน์มาก ซึ่งพอสรุปได้

๑. เชื่อว่าได้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพราะขณะสวดมนต์อยู่นั้น จิตรำลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสอน และคุณความดีของพระสงฆ์สาวก
๒. ขณะที่สวดมนต์อยู่นั้น จิตใจจะสงบ ปราศจากความโลภ ความโกรธ ความหลง
๓. จิตเป็นสมาธิ เข้มแข็ง อดทน
๔. ได้ปัญญารู้แจ้งเห็นจริงถึงสัจธรรมในการดำเนินชีวิต
๕. การสวดมนต์ภาวนา เป็นการสั่งสมบุญบารมี จิตใจสงบ นอนหลับสบายไม่ฝันร้าย
๖. การสวดมนต์ เป็นการบริหารร่างกายอย่างหนึ่ง เช่น การยกมือ การประนมมือ การก้มกราบ การเปล่งออกเสียงทำให้ปอดขยาย ระบบทางเดินหายใจดี สร้างภูมิคุ้มกันภัยแก่ร่างกาย
๗. การสวดมนต์เป็นหมู่คณะ ต้องมีความพร้อมเพรียงกัน เริ่มพิธีพร้อมกัน กราบพร้อมกัน สวดมนต์พร้อมกัน เลิกพร้อมกัน เป็นการสร้างระเบียบและความสามัคคีในหมู่คณะhttp://www.dmc.tv/

ประโยชน์ของการแผ่เมตตา ๑๐ ข้อ

การสวดมนต์ แผ่เมตตา เป็นกิจที่จำเป็นและสำคัญสำหรับชาวพุทธศาสนิกชน เป็นประเพณีนิยมที่ปฏิบัติ สืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน เป็นหลักปฏิบัติเบื้องต้น อันจะนำไปสู่การเรียนรู้และปฏิบัติตาม หลักคำสอนในระดับที่สูงขึ้นไป อย่างไรก็ดี การสวดมนต์มีอานิสงส์และคุณประโยชน์มาก
๑. หลับเป็นสุข
๒. ตื่นเป็นสุข
๓. ไม่ฝันร้าย
๔. เป็นที่รักแห่งมนุษย์ทั้งหลาย
๕. เป็นที่รักแห่งอมนุษย์ทั้งหลาย
๖. เทวดาทั้งหลายย่อมรักษา
๗. ไฟ ยาพิษ อาวุธไม่กล้ำกลาย
๘. จิตตั้งมั่นได้โดยเร็ว
๙. สีหน้าย่อมผ่องใส
๑๐.มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์
http://www.dhammatidpeek.com/

สรรเสริญพระรัตนตรัย..กายอ่อนน้อม..วาจาอ่อนหวาน..จิตใจอ่อนโยน

ธรรมะคือคุณากร ส่วนชอบสาทร
ดุจดวงประทีปชัชวาล

แห่งองค์พระศาสดาจารย์ ส่องสัตว์สันดาร
สว่างกระจ่างใจมล
ธรรมใดนับโดยมรรคผล เป็นแปดพึงยล
และเก้ากับทั้งนฤพาน

สมญาโลกอุดรพิสดาร อันลึกโอฬาร
พิสุทธิ์พิเศษสุกใส

อีกธรรมต้นทางครรไล นามขนานขานไข
ปฏิบัติปริยัติเป็นสอง
คือทางดำเนินดุจคลอง ให้ล่วงลุปอง
ยังโลกอุดรโดยตรง
ข้าขอโอนอ่อนอุตมงค์ นบธรรมจำนง
ด้วยจิตและกายวาจาฯ

http://www.tamdee.net/

05 มีนาคม 2551

ชนะความเครียด

วิธีจัดการกับความเครียดที่มาซึ่งๆ หน้า หลบไปไหนก็ไม่ได้ ทำอย่างไรดี? คุณอาจทดลองทำ 3 ข้อ คือ
1) สติ --- ต้องมีตลอด รู้ตัวว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับคุณ สติต้องอยู่กับตัว ใจมันเต้นแรง มันร้อนไปหมด หรือยังไงก็ให้รู้ ถ้าคุณรู้ว่ามันเป็นอย่างไร นั่นแสดงว่าคุณมีสติล่ะ --- สติเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในยามที่คุณเครียด
2) หยุด-ฟัง-พิจารณา --- หยุดพูด หยุดโต้แย้ง หยุดกระวนกระวาย ใจเย็น ๆ ตั้งใจฟังและดูให้ดี --- สักครู่คุณจะคิดได้เองว่าวิธีไหนจะดีที่สุด สำหรับตอนนี้ --- เลือกวิธีที่ดีที่ไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ แล้วก็ ไม่เดือดร้อนตัวคุณ หรือใคร --- อารมณ์เป็นศัตรูตัวร้ายที่สุดใน ยามที่คุณเครียด
3) หน้าที่ --- ทำหน้าที่ของคุณต่อไป มีงานอะไรต้องทำ ทำต่อเลย อย่าปล่อยเวลา ไปกับความเศร้าซึม โกรธแค้น ฯลฯ เช่น ถึงเวลานอนก็นอน เวลากินก็กิน หรือเดิมวางแผนจะต้องทำอะไรก็ทำ อย่าให้ความเครียดมาครอบงำคุณนาน
http://www.larndham.net

01 มีนาคม 2551

วิถีชาวพุทธ " Bomb to Bell" สันติสุข สันติภาพ

คติธรรมประจำใจ
น อะนะริยัง กะริสสามิ
ชาวพุทธ จักไม่กระทำสิ่งที่ต่ำทราม
ชาวพุทธ จักกระทำสิ่งที่ดีงาม
ชาวพุทธ จักช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
นี่คือความสุขของพวกเรา "ชาวพุทธ"
คติธรรมดำเนินชีวิต
นิสัยส่วนตัว : คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปสู่สถานที่ดี
นิสัยส่วนรวม : ลูกที่ดี ศิษย์ที่ดี เพื่อนที่ดี พลเมืองที่ดี พุทธศาสนิกชนที่ดี
นิสัยการทำงาน : งานคือชีวิต ชีวิตคืองาน บันดาลสุข ทำงานให้สนุกเป็นสุขกับการทำงา
"ตื่นตัว ว่องไว ก้าวหน้า ตามรอยบาทพระศาสดา สืบอายุพระศาสนา เพื่อโลกาสงบเย็น" www.watpanya.org(อบรมค่ายพุทธบุตร ร.ร.อนุบาลศรีสำโรง 27 - 29 ก.พ.2551)